{Fic: Katekyo Hitman Reborn}10051เชลยรัก mpreg - {Fic: Katekyo Hitman Reborn}10051เชลยรัก mpreg นิยาย {Fic: Katekyo Hitman Reborn}10051เชลยรัก mpreg : Dek-D.com - Writer

    {Fic: Katekyo Hitman Reborn}10051เชลยรัก mpreg

    ต่อให้คุณใจดีมีเมตตา แค่ไหน โลกใบนี้ก็ไม่เคยปราณีคุณ

    ผู้เข้าชมรวม

    5,379

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    26

    ผู้เข้าชมรวม


    5.37K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    113
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ย. 61 / 15:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    {Fic: Katekyo Hitman Reborn}10051เชลยรัก mpreg







     บางทีโชคชะตาก็อยากให้เรารู้จักคำว่า ทรมาร

    แต่โชคชะตาจะรู้ไหม คำ ว่าทรมาร นั้นมันโหดร้าย

    สำหรับเขาเพียงใด

     

    ขอเตือนเจ้าค่ะหากใครไม่ชอบวาย  ข้าน้อยต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ

     

    แนวนี้ เป็น ชาย-ชาย เป็นเรื่องผิดศิลธรรม อาจจะทำให้ใครบางคนรับไม่ได้

     

    เพราะงั้นข้าน้อยขอความกรุณาด้วยนะขอรับได้โปรดอย่าแบน  ถ้าไม่พอใจหรือไม่ชอบ

     

    กดออกได้เลยนะขอรับข้าน้อยไม่โกธร

     

    ส่วนใครที่อายุต่ำกว่า 18 ก็โปรดอ่านด้วยวิจราญาณด้วยนะขอรับ

     

    ขอเตือน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องก็เนื้อหาหลักแต่อย่างใด แต่งขึ้นด้วยความมโนของผู้เขียนล้วนๆ

     

    และความชอบส่วนตัว

     

    ขอเชิญอ่านได้เลยขอรับกระผม

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      ต่อให้คุณใจดีมีเมตตา แค่ไหน โลกใบนี้ก็ไม่เคยปราณีคุณ

       

      ก็แค่อยากอยู่ในที่ๆไม่มีความหวาดกลัว อยู่ในที่ๆรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องเป็นวันธรรมดาเช่นเดิม มองดูท้องฟ้าที่ก้อนเมฆเปลี่ยนรูปร่าง และดูมันอย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใด อยู่ภายใต้เมืองที่อบอุ่นแต่ก็แข็งแกร่งภายในเวลาเดียวกัน ผู้คนที่นั้นช่างเป็นมิตร ขนาดเจ้าชายยังมาดูแลประชาชนของตัวเองด้วยพระองค์เองเลย เมืองนั้นช่างงดงามราวกับแดนสวรรค์ ต่างกับที่เมืองนี้ เมืองที่เขาอยู่ ณ ตอนนี้

       

      “ฮ่าๆ ข้าให้เวลาแค่สามนาที ถ้าเจ้าหนีจากรงเล็บสิงโตตัวนี้ไปได้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”ราวกับถ้อยคำสั่งประหาร เพียงประโยคนั้นก็เรียกเสียงโห่ร้องจากทั่วสารทิศมองดูเชลยศึกที่ต่อสู้กับสิงโตด้วยมือเปล่า ดูก็รู้ว่า คนผู้นั้นไม่มีทางรอดแน่นนอน ซึ่งมันก็เป็นดั่งคาดไม่เกินนาที ชายผู้นั้นก็โดนฉีกกระชากด้วยกรงเล็บเจ้าป่า ซึ่งสร้างความสำราญใจให้กับราชาใจโหด

       

      ที่นี้ถูกปกครองด้วย มิลฟีโอเล่ โดยชายที่ชื่อว่า เจสโซ่ เบียคุรัน ครอบคุมเกือบครึ่งโลก และ อีกครึ่งโลกปกครองด้วย วองโกเล่ และตัวเขาก็เป็นคนของวองโกเล่ เหตุผลที่เขามาอยู่ที่นี้นะเหรอ ก็เพราะเขามาช่วยเจ้าชายที่ถูกจับเป็นตัวประกัน หากจะเปิดสงครามท่านราชาก็เกรงว่าจะทำให้ลูกชายของพระองค์เจ็บตัว จึงวางแผนลักลอบชิงตัวเจ้าชายและเขาก็เป็นหนึ่งในมันสมองของวองโกเล่ จึงวางแผนการช่วยเจ้าชายสึนะ เขาก็ช่วยสำเร็จแต่แลกกับการที่เขาต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล้อหรือแพะรับบาปแทน     

       

      ดวงตาสีมรกตมองเวทีที่เต็มไปด้วยเลือดทุกอย่างถูกละเลงไปด้วยความป่าเถื่อน มันต่างจากที่ๆเขาเคยอยู่ ผู้คนพวกนี้แทบไม่รู้จักคำว่าเมตตาเสียด้วยซ้ำ จนชายหนุ่มตัวเล็กแทบจะอาเจียนกับการป่าเถื่อนตรงหน้า  มันเป็นความป่าเถื่อนที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ผสมปนเปไปกับความน่ากลัวและหลอมรวมกันเป็นความบ้าคลั่ง

       

      ถ้าเปรียบมิลฟีโอเล่นี้เป็นด้านมืด วองโกเล่ก็คง เป็นด้านสว่าง

       

      “โชจังมาทางนี้สิ”ราชาหนุ่มควักมือเรียกเชลยศึกให้เดินไปหา คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับก้มหน้าหากไม่มีคำสั่งให้สบตาหรือเงยหน้าก็ห้ามทำไม่งั้นจะถือว่าเป็นความผิด

       

      “.....”และถ้าหากไม่มีคำสั่งให้พูด ก็ห้ามพูดเด็ดขาด เพราะเขาเรียนรู้สิ่งพวกนั้นผ่านทางร่างกายที่ยังมีรอยเขียวช้ำนั้นได้ดี

       

      “มานั่งตรงนี้”ชายหนุ่มตบหน้าตัก และการกระทำนั้นก็ทำให้พวกบ้านป่าเมืองเถื่อนต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับเชลยหนุ่มผู้แสนบอกบาง หากแต่ยิ้มนั้นไม่ได้เปรียบไปด้วยคำชื่นชมแต่มันเปรียบไปด้วยความเย้ยหยัน ร่างเล็กนั่งตามคำสั่ง เขารู้สึกดีใจเหลือเกินที่เป็นคนรับบาปพวกนี้แทนเจ้าชายผู้ที่เต็มไปด้วยความเมตาของเขา เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆหากเจ้าชายผู้ที่ไม่เคยประสบพบเจอกับความป่าเถื่อนพวกนี้จะมีสภาพเป็นอย่างไรถ้าต้องมาเจอกับคนพวกนี้และการกระทำเช่นนี้

       

      ประชาชน คงใจสลายและก่อเกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่โตอย่างแน่นนอน เขายังจำได้ดีตอนที่บอกให้เจ้าชายทิ้งเขาไว้และรีบหนีไป เพียงมันสมองปลายแถวอย่างเขาคงไม่ก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นหรอก เขาหวังว่าเจ้าชายจะใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขเผื่อเขาบ้าง

       

      “ไหนเงยหน้ามาสิ”พูดพร้อมกับเชิดปลายคางอีกฝ่ายขึ้น ใบหน้าหวานมีรอยเขียวช้ำที่เริ่มจะจางหายอยู่ที่มุมปาก บริเวณปลายคิ้วที่แตกก็เริ่มสมาน รอยแดงบนหน้าก็จางหาย ก่อนจะไล่สายตาสำรวจตัวของอีกฝ่ายข้อมือบางแผลก็สมานจนไม่เห็นเนื้ออีกฝ่าย ทุกอย่างเริ่มหายดี ก่อนจะสูบกลิ่นกายหอมเข้าเต็มโพรงจมูกนั้นทำให้เรียกเสียงเฮจากผู้คนด้านล่างได้ดี คนตัวเล็กได้แต่ข่มความอับอายไว้ เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าราชาใจโหดนั้นพยายามย้ำยีศักดิ์ศรีเขา ต่อหน้าประชาชนผู้ป่าเถื่อนของชายหนุ่มให้ดูเป็นขวัญตา

       ข่มความเจ็บ ความปวดเอาไว้ในใจ แม้อยากจะฆ่าให้ตายแต่เขารู้ว่ากำลังของเขาช่างน้อยนิดหนักเมื่อเทียบกับคนใจมารคนนี้ 

      คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจจนตัวสั่นเมื่อมือหนาลากมาที่บริเวรต้นขาอ่อน มือเล็กเอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ

       

      “ลืมไปแล้วเหรอว่าห้ามขัด”เสียงเหี้ยมๆนั้นทำให้คนตัวเล็กเอามือออกจากมือหนาที่พยายามล่วงล้ำเขา ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ยประกาศให้เริ่มการประลอง แต่มือหนาก็ยังคงไล้วนบริเวรต้นขาอ่อนและลามไปถึงหน้าอกราบแบนของเชลยศึกตัวน้อยที่นั่งตัวสั่นงกๆบนตักเขา ปฏิกิริยานี้ทำให้เขาพอใจ คนตัวเล็กกลัวเขาจนตัวสั่นซึ่งมันต่างจากครั้งแรกที่จับตัวมา ทั้งพยศใส่เขา ถ่มน้ำลายใส่หน้า ขัดขืนเขาทุกอย่าง พยายามหนีราวกับแมวน้อยที่หาทางเอาตัวรอด ทั้งๆที่ก็รู้ตัวดีว่าทำอย่างไงก็หนีจากรงเล็บของเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูสิแมวตัวนั้นกำลังเชื่องจนน่าใจหาย

       

      เมื่อลูบไล้ร่างกายนี้จนเกิดอารมณ์ ชายหนุ่มพาคนตัวเล็กลุกขึ้นและสั่งทหารให้หยุดการประลองถ้าจบคู่นี้ ก่อนจะนัวเนียคนที่ตัวสั่นเข้าไปที่ห้องบรรถมของตัวเอง เขาไม่เคยหิ้วใครเข้ามาที่ห้องนอนส่วนตัวไม่แม้แต่จะคิด หากแต่กับเชลยศึกผู้ที่เขาทำให้เชื่องนั้นมีบางอย่างผิดแปลกไป เขาน่าจะสั่งประหารให้ตายๆไปสะ ที่บังอาจเอาของเล่นอันมีค่าไปจากเขาทั้งๆที่เขายังไม่ได้เล่นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ดีพอได้เห็นรูปหน้าค่าตาแล้ว เชลยศึกผู้นี้ก็เหมือนสามัญชนธรรมดา ดูจะเป็นพวกอ่อนที่สุดเสียด้วยซ้ำจะมีดีก็แค่เป็นพวกมีมันสมองหน่อยๆ ใบหน้าถึงจะไม่ได้สวยและน่ารักเท่าสึนะโยชิคุง แต่ก็ถือว่าโอเครผมสีส้มผสมสีแดงเข้มนิดๆดวงตาสีมรกตที่แสดงออกว่ากลัวแต่ก็พยายามซุกซ่อนอาการนั้นไว้ รูปร่างผอมบางน่าจะถือว่าหุ่นดี จมูกเล็กปากหน่อย ริมฝีปากออกสีชมพูอ่อนแต่พอเวลาจูบ กลีบปากบางกลับออกสีแดงช่ำจนน่าขย้ำสะ ผิวก็ขาวแต่ก็น้อยกว่าเชลยศึกที่มีศักดิ์เป็นเจ้าชายผู้นั้น ทั้งๆที่ท่าทางน่าจะเป็นพวกรักสงบและพวกขี้แพ้ แต่พอเวลาพยศก็ไม่เป็นสองรองใครเลย เขายังจำได้ ที่อีกฝ่ายโมโหที่เขาดูหมิ่น ผู้ปกครองของวองโกเล่ เชลยศึกตัวน้อยก็ชกหน้าเขาโดยไม่ลังเลแถมยัง

      ถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เจ้าตัวก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ปกครองครึ่งโลกที่มืดมนนี้ แต่ก็ไม่มีแววตาที่หวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ นั้นยิ่งทำให้เขาอยากปราบความพยศนั้น

       

      ตุบ ชายหนุ่มล้มตัวลงพร้อมกับกอดคนตัวเล็กให้ล้มลงนอนลงไปบนที่เตียงนอนชั้นดี ริมฝีปากหนาก็จูบคนตัวเล็กที่มีอาการสั่น  กวาดต้อนลิ้นเล็กให้จูบตอบ ทั้งหวานทั้งหอม ส่วนมือหนาก็ทำการถอดอาภรสีขาวที่เขาให้ชายหนุ่มตัวน้อยใส่เพื่อบ่งบอกว่าคนด้านล่างนี้คือของเขาและผู้ใดก็ไม่ควรแตะต้องสิ่งนี้

       

      น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว หัวใจดวงน้อยสั่นไหวไปด้วยความกลัว ทั้งกลัวทั้งเกลียดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งจมูกหนาไล่มาทางลำคอคนตัวเล็กก็แทบจะเบื้อนหน้าหนี  ชายหนุ่มเมื่อสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาที่รังเกียจเขาก็นึกหมั่นไส้ก่อนจะหยุดการกระทำและลุกขึ้นพร้อมกับดึงคนที่นอนมานั่งบนตัก

       

      “ทำสิ”สั่งแค่นั้น คนตัวเล็กยื่นมือสั่นๆไปจับอาภรณ์ที่อีกฝ่ายสวมใส่ออกก่อนจะซุกไซร์ลำคอหนา จนได้ยินเสียงครางต่ำที่บริเวณลำคอ แค่ท่าทีไม่ได้เรื่องก็ทำให้เขาพอใจได้มาก มือเล็กเปลื้องผ้าอีกฝ่ายออกก่อนจะถอดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยตัวเองออกและเตรียมพร้อมตัวเองสำหรับการร่วมรักที่ตัวเองรู้สึกไม่เต็มใจแต่กลับโหยหาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

       

      “อะ..อึก”คนตัวเล็กผวากอดคนที่นั่งยิ้มให้ ความยาวนั้นมันทำให้ชายหนุ่มตัวเล็กจุก ก่อนจะขยับตัวขึ้นลง

       

      “ครางออกมา”คำอนุญาตนั้นทำให้คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นเริ่มครางออกมา

       

      “อืม..อ่าส์”แขนเล็กโอบรอบคอชายหนุ่มตรงหน้า ความเสียวซ่าส์แล่นเข้ามาที่หน้าอกแบนราบ ริมฝีปากหนาครอบครองเมล็ดทับทิมสีชมพูพร้อมกับขบกับเบาๆแล้วรั่วลิ้นสัมผัส ราวกับทารกที่ดูดนมจากมารดา คนตัวเล็กแอ่นหน้าอกให้คนใจร้ายสัมผัสได้ถึงใจ สัมผัสด้านล่างก็เริ่มอ่อนแรงเมื่อคนตัวเล็กแถบจะไม่มีแรงขยับเพราะความเสียวซ่าส์วิ่งผ่านราวกับไฟช็อก จนทำให้ชายหนุ่มผมขาวพลิกตัวอีกฝ่ายให้นอนลงและเริ่มทำการขยับสะโพกให้คนตัวเล็กครางลั่นห้อง

       

      “อืม..อ่าส์..ทะ..ท่าน”พูดไม่หมดเมื่อความเสียวมันแล่นมาจุกที่คอ มือเล็กบีบไหล่หนา คราญครางราวกับจะขาดใจตายช่างเป็นโลกที่แปลกใหม่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายกับใคร หากไม่ใช่คู่แต่งงานเพราะประเทศเขาให้ความเคารพกับหญิงสาวอย่างมาก

       

      “หืม..มีอะไรโชจัง..”ยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย รู้ทั้งๆรู้ว่าคนตัวเล็กต้องการสิ่งใดแต่เขาก็ยังอยากถามเจ้าตัวเล็กใต้ร่างนี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงพึ่งพอใจเชลยศึกผู้นี้หนักทั้งๆก็มีสาวงามที่งดงามกว่าเชลยศึกผู้นี้หลายเท่าเข้ามาให้เขาเชยชมทั้งงดงามและเป็นสาวพรมจันทร์  แต่เขาก็ไม่แม้จะแลเลย ตรงข้ามเขากลับหมกมุ่นกับชายหนุ่มต่างแดนนี้เข้าอย่างจัง

       

      “ได้โปรด..แรง..กว่านี้..อ่าส์..ท่านเบียคุรัน..ไม่..อ่าส์ๆ”ร้องคราญครางปางจะขาดใจตายเมื่อ ราชาใจโหดตอบรับคำขอจนคนตัวเล็กแทบดิ้นตาย แต่ก็ยังกางขาให้สุดๆเพื่อให้อีกฝ่ายถนัดต่อการสอดใส่ ช่างน่ารักนักเมื่ออยู่ภายใต้อารมณ์ปรารถนาราวกับเด็กน้อยที่ไม่รู้ประสีประสาในเรื่องอย่างว่า   

       

      “ฮ่าๆ..ช่างน่ารัก..อ่าส์”แรงขย่มเริ่มแรงขึ้นเรื่องๆจนเสียงเตียงสั่นไหว ความกลัวถอยหายเมื่ออารมณ์หมายอยู่เหนือความกลัว คนตัวเล็กทั้งกอดทั้งจูบ ราชาใจร้ายให้หนำใจไม่สนว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร ชายรูปงามที่เหมือนหลุดออกมาในเทพนิยาย ช่างหล่อเหลาสมคำล่ำลือที่ไปถึงอาณาจักรที่เขาอยู่ ผมสีขาวสว่างไสว ดวงตาสีอเมทิสต์ที่ดึงดูดทุกคน กับรอยศักที่ใต้ตาสีม่วงช่างมีเสน่ห์เหลือหลาย จมูกคมสั้นน่ามอง รวมๆแล้วคนผู้นี้ช่างหล่อเหลา ผิวกายก็นวลขาวผ่องแต่มีรอยมลทินที่บริเวรแผ่นหลังเท่านั้น แต่รอยพวกนั้นก็ไม่เป็นจุดด่างพร้อยกลับกันกับเพิ่มเสน่ห์ให้ราชาผู้นี้ขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่เขาก็นึกเสียดายในความหล่อนี้ที่แม้จะหล่อเหลางดงามดุจเทวดาแต่จิตใจกลับต่ำช้าราวกับยักษ์มาร

       

      “อืม..อ่าส์..เบาๆ..ได้โปรด”เขาแทบจะทนแรงกระแทกไม่ไหวรอยขบกัดที่อีกฝ่ายทำมันแสบไปหมด ราชาหนุ่มหาได้สนใจเสียทักท้วงไม่ เขายังหน้ามืดตามัวหลงไหลกับร่างกายเชลยศึกนี้อย่างกับคนตายอดตายอยาก

       

      “อืม..ทะ..ทนหน่อยซี๊ด..มันยอดมาก”โชอิจิ ทำให้เขากลับไปเป็นหนุ่มน้อยที่พึ่งมีเซ็กส์ครั้งแรกอีก ครั้งเขาหลงไหลและมัวเมาในเซ็กส์ที่ไร้เดืองสานี้จนโงหัวไม่ขึ้น ช่างเป็นเชลยศึกที่ร้ายกาจ ชายหนุ่มขยับเอวให้ลึกขึ้นอีก เขาอยากสัมผัสอีกฝ่ายให้มากขึ้นลึกจนคนตัวเล็กแทบลืมหายใจ ให้อยู่บนทรวงสรรค์ที่เขาสร้างให้ หลอกล้อจนหนีไปไหนไม่ได้ ดั่งเช่นฮันเซล และ เกรเทล ที่หลงในบ้านขนมหวาน ถึงแม้ตอนท้ายจะฆ่าแม่มดได้ก็เถอะ แต่เขาจะไม่มีวันให้เหยื่อตัวน้อยนี้หนีไปแน่น เพราะเขาไม่ได้หน้าโง่เหมือนแม่มดนั้นสะหน่อย

       

      ดวงตาสีมรกตเหม่อลอยเมื่อไปถึงฝั่งฝัน แต่คนด้านบนกับยังไม่ถึงยังกระแทกลึกสนองตันหากับร่างกายบางนี้ ริมฝีปากหนาประกบจูบร้อนแรงและปั่นอารมณ์คนตัวเล็กอีกครั้ง มือหนาบีบหน้าอกเล็กที่มันบวมขึ้นมาเพราะแรงบีบกับรอยขบกัดนิ้วหัวแม่โป้งเขี่ยตุ่มไตสองเม็ดเพื่อเพิ่มอารมณ์ให้คนตัวเล็ก มือเล็กที่วางขนาดพื้นก็กำผ้าปูที่นอนเมื่ออารมณ์หมายก่อกำเนิดอีกครั้ง ร่างเล็กร่างกายสั่นไหวไปกับแรงกระแทก ที่ไม่มีการยั้งมือใดๆเลย ก่อนจะทำการอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแล้วพาคนตัวเล็กไปหน้ากระจกมือหนาสอดเข้าที่ขาพับด้านหนึ่งก่อนจะยกขึ้นและสอดความเป็นชายเข้าไปใหม่ คนตัวเล็กเอามือทาบกับกระจกมองดูใบหน้าตัวเองด้วยความอับอาย แต่ปฏิกิริยานั้นทำให้คนคุมเกมยิ้มอย่างหรรษา

       

      “ใบหน้าของ โชจังลามกมากเลยรู้หรือเปล่า”เขามองดูการสอดใส่ที่น่าอายนั้นก่อนที่คนตัวเล็กจะหันหน้าหนีแต่ก็โดนมือหนาจับกลับมาดูด้างล่างและดูใบหน้าลามกๆของตัวเองและชายหนุ่ม

       

      พับๆ เสื้อเนื้อกระทบกันแน่น ชายหนุ่มใจโหดมองดูกิริยาของคนตัวเล็กก็พอใจอย่างมากก่อนจะกอดคนตัวเล็กและหายใจรดหู

       

      “อ่าส์!!!..”เมื่อทนไม่ไหวคนตัวเล็กก็ปล่อยออกมาจนเหนื่อยหอบ ก่อนที่ชายหนุ่มใจโหดจะตามมาติดๆ ร่างทั้งสองร่วงลงไปกองกับพื้น เบียคุรันก้มลงจูบลาดไหล่คนตัวเล็กที่สลบคาอกไปแล้วก่อนจะลามไปถึงซอกคอและใบหู ตบด้วยที่ริมฝีปากเป็นรางวัล เขาอุ้มคนตัวเล็กกลับไปที่เตียงนอน

      .

      .

      อีกซีกหนึ่งของโลกเจ้าชายหนุ่มกำลังเป็นห่วงเพื่อนที่ช่วยตัวเองอย่างกังวลใจ เหตุใดเขาจะไม่รู้ละว่า มิลฟีโอเล่ ขึ้นชื่อเรื่องความป่าเถื่อนแค่ไหน เขารู้ดีว่าฝ่ายนั้นจับเขาไปทำอะไร เขากลัวว่าโชอิจิจะเป็นคนรับกรรมแทน

       

      แต่เขาก็หาทางช่วยไม่ได้เลย เขารู้ว่าทางเราไม่ควรสูญเสียใครไปอีก หากต้องไปช่วยแน่นอนว่าต้องเกิดสงครามซึ่งยังดีที่โชอิจิส่งพิราบสื่อสารมาว่า ไม่อยากให้พวกเขามาช่วยไม่ว่าตัวเองจะเป็นอะไรก็ตาม เด็กหนุ่มคงไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้น และเขาจะทำใจได้อย่างไรเล่า แถมยังมีเนื้อความว่าให้เขาใช้ชีวิตให้มีความสุขแทนเด็กหนุ่มด้วย และเขาจะทำมันลงได้อย่างไง ตั้งแต่จดหมายนั้นทางเขาก็ไม่ได้รับจดหมายจากทางโชอิจิอีกเลย เขาปวดใจทุกเมื่อ เมื่ออดคิดไม่ได้ว่าโชอิจิจะเป็นอย่างไงถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้น ถ้าเป็นเขาคงฆ่าตัวตาย  เขาได้แต่ภาวนาว่าคนตัวเล็กนั้นจะรอดกลับมา

      .

      .

       มือหนาลูบไหล่คนตัวเล็กเล่นก่อนจะประทับริมฝีปากบนลาดไหล่นั้น ผิวเนียนสวยน่าสัมผัสบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เชลยศึกผู้นี้ไม่เคยทำงานหนัก แต่มือกลับหยาบด้าน ดวงตาสีอเมทิตย์มองคนที่หันหลังให้ที่มองออกไปนอกหน้าต่าง

       

      ข้างนอกนั้นมืดมิดสมกับคำล่ำลือ มืดจนมองไม่เห็นว่าด้านนอกนั้นเป็นอย่างไร แม้จะมีแสงคบเพลิงก็ใช่ว่าจะส่องสว่างพอ ให้เห็นเขตด้าน นอกอาณาจักรนี้ จะมีดีก็แต่แสงประกายดาวที่อยู่บนท้องฟ้าราวกับดินแดนแห่งเทพนิยาย ความงามนี้ไม่น่าจะอยู่ที่นี้เลย เขาเริ่มรู้สึกเสียดายทิวทัศน์นี้และความหล่อเหลาของราชาใจโหดเหลือเกิน

       

      “ตั้งแต่นี้ไปโชจังอยู่ห้องนี้นะ แล้วถ้าฉันไม่บอกให้ออกไปก็ห้ามออกไปเข้าใจไหม”เขาตัดสินใจแล้วละว่าจะให้เชลยผู้นี้อยู่ที่นี้

       

      “ครับ”ตกคำรับปาก และก็ไม่มีพูดอะไรต่อแม้อยากค้านแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ ที่นี้ไม่มีประชาธิปไตย เขารู้เพราะงั้นถ้าอยากรอดก็จงอยู่อย่างสงบ

       

      ชายหนุ่มรู้สึกพอใจกับผลงานของตัวเองเหลือเกิน ก่อนจะมอบจูบให้เป็นรางวัลสำหรับเด็กดี และเริ่มบทรักอีกครั้ง

       

      อยากจะหนีออกไปจากที่นี้ เขาชักจะเริ่มไม่ไหวแล้วกับความเลือดเย็นตรงหน้า คนๆนี้ช่างโหดร้ายและเลือดเย็น เขาฆ่าทหารร่วมแผนการของโชอิจิตายไปสามคนและบังคับให้เชลยหนุ่มดูการกระทำที่โหดร้ายนั้น เขาลืมไม่ลงจริงๆและเขาก็ขยะแขยงตัวเองเหลือเกินที่มีอารมณ์กับคนที่ฆ่าเพื่อนตัวเอง

      .

      .

      “เอาอีกแล้วเหรอ”ราชาหนุ่มถามอีกครั้งเมื่อ รู้ข่าวว่าเชลยศึกหนุ่มแอบปล่อยพวกนักโทษและแอบให้อาหารกับเด็กที่อยู่ท้ายอาณาจักร

       

      “ขอรับ ตอนนี้นักโทษที่ท่านโชอิจิปล่อยไปนั้นออกจากเขตแดนของเราแล้วขอรับ นักโทษที่ถูกปล่อยส่วนมากจะเป็นคนที่ขวางการใช้ความรุนแรงนะขอรับ”

       

      ราชาหนุ่มใจโหดถึงกับยิ้มอย่างพอใจเมื่อคนตัวเล็กมีอะไรให้เขาแปลกใจเสมอ ความละเบื่อความใจดีที่ใสซื่อบริสุทธิ์นั้นสะจริง อยากทำให้มันปนเปื้อนไปด้วยมลทินสะเหลือเกิน แต่ก็ว่าละนะคนตัวเล็กนั้นหัวแข็งจะตาย

       

      เบียคุรันเดินเข้าห้องนอนก็พบคนตัวเล็กนั่งมองออกนอกหน้าต่าง เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเสียงประตูก็หันมาทางเขาพร้อมกับยื่นมือให้ชายหนุ่ม ราชาใจโหดยิ้มในความแสนรู้ของอีกฝ่ายก่อนจะเอาเชือกที่เขาซ่อนไว้มามัดข้อมืดเล็กแน่น

       

      “รู้ตัวดีนิ ว่าจะเจอกับอะไร”เสียงทุ้มพูดออกมาก่อนจะเอาผ้าสีดำปิดบริเวณรอบดวงตา ชายหนุ่มผมขาวเอาเชือกมัดข้อพับขาให้แนบชิดกัน

       

      “อึก”น้ำตาใสไหลออกมาเมื่อชายหนุ่มกระแทกเข้ามาโดนไม่มีทางเบิกทางใดๆเลย กี่ครั้งกันที่ต้องทนทรมาร นักโทษหนุ่มรู้ว่าจะโดนบทลงโทษแบบไหนแต่เขาก็ห้ามให้ตัวเองช่วยคนพวกนั้น เด็กพวกนั้นทั้งตัวผอมบางแถมยังเป็นไข้เขาทนไม่ได้ เพราะที่อาณาจักรที่เขาอยู่นั้นไม่มีเด็กคนไหนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่เด็กพวกนี้ถูกทิ้งเขาไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บทรมารของเด็กพวกนั้นได้ แต่เขาพอรู้ว่าความรู้สึกถูกทิ้งเป็นอย่างไง

       

      สามวันที่เขาถูกมัดไม้มัดมืดและถูกปิดตาและถูกล่วงล้ำติดต่อกันจนช่องทางด้านหลังเขาอักเสบอย่างรุนแรง มันทั้งเจ็บทั้งแสบ กายและจิตใจของเขากำลังจะแตกสลาย แต่เขาต้องอยู่ให้ได้เพื่อต้องช่วยพวกเด็กๆ เมื่อเขาไปท้ายอาณาจักรก็พบว่าเด็กๆพวกนั้นวิ่งมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาราวกับว่าที่นี้เป็นที่ๆเขาเคยจากมา ชายหนุ่มเอานิทานที่ตัวเองแอบซ่อนมาด้วยมาอ่านและสอนหนังสือให้เด็กพวกนี้

       

      “มือพี่ชายไปโดยอะไรมาเหรอครับ และก็คอพี่ชายด้วย”เด็กน้อยพูดขึ้นเมื่อเห็นข้อมือและลำคอของผู้มีประคุณถูกพันแผลไว้แต่ก็ยังมีเลือดซึมออกมาทั้งมือและลำคอ เชลยศึกหนุ่มยิ้มให้กับความไร้เดืองสาก่อนจะลูบหัวเด็กน้อยช่างขาวบางน่าทะนุถนอม

       

      “ข้าแค่ซนไปหน่อยนะ ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะกลับมาอีกสองสามวันนะ นี้เมล็ดพืชพวกเจ้าต้องปลูกและเอาไปทำอาหารอย่างที่ข้าบอกตกลงไหม”ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ เขาวาดรูปบอกขั้นตอนให้เด็กพวกนี้ เพราะเด็กพวกนี้ไม่รู้หนังสือเลยด้วยซ้ำและเขาไม่มีเวลามาสอนด้วยกว่าจะออกจากคนใจร้ายได้ก็ลำบากมากพอแล้ว

       

      ร่างเล็กเดินเข้าห้องนอนแต่ต้องตกใจเมื่อเห็นคนตัวโตยืนรองที่ห้องโถงใหญ่

       

      “โชจัง ทำเวลาได้ดีนิ”


      “ครับ”ถึงแม้ว่าราชาหนุ่มจะให้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ก็ยังถือว่าดี ชายร่างบางยืนที่เดิม รอให้มีคำสั่งจากชายหนุ่มผมขาว หากไม่มีคำสั่งให้ทำอะไรหรือให้พูดอะไรก็ห้ามแม้แต่เอ่ยปากถามถ้าไม่อยากเจ็บตัว

       

      “มานี้สิ”นักโทษหนุ่มเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายให้พอประมาณก่อนจะโดนมือหนาเอื้อมไปคว้าเอวสอบให้นั่งลงที่ตักแม้จะตกใจกับการกระทำชายหนุ่มแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

       

      “....”

       

      “ดูสิแผลเปิดเลย บอกแล้วว่าค่อยไปพรุ่งนี้ก็ไม่เชื่อ”มือหนาจับมือเล็กขึ้นพร้อมกับดูมันอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน คนตัวเล็กนั่งนิ่งๆ ตุ๊กตาต่างแดนที่ได้มาแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับได้ดั่งใจนัก ริมฝีปาหนาจูบข้อมือที่มีผ้าพันแผลกั้นไว้ก่อนจะจูบที่ลำคอ ดวงตาสีมรกตหลับตาลงยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

       

      แม้อยากจะหนีหากแต่กำลังที่เขามีอยู่กลับน้อยนิด ไม่สามารถไปไกลเกินกว่าท้ายอาณาจักรได้ จะขอร้องให้คนใจร้ายปล่อยเหรอไม่มีวันสะหรอก ความตายเท่านั้นที่จะช่วยให้เขารอดพ้นได้ซึ่งมันก็ใกล้เข้ามาทุกที

       

      ตุบ ของเล่นและขนมร่วงร่นเมื่อเห็นไฟลุกบ้านที่เขาสร้างให้พวกเด็ก หัวใจดวงน้อยสลายไปกับควันไฟ เชลยศึกหนุ่มหน้ามืดเขาไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้นร่างเล็กพยายามวิ่งเข้าไปในกองเพลิงนั้นแต่ก็โดนทหารของมิลฟีโอเล่จับตัวไว้ ดวงตาสีมรกตมองเห็นแผ่นหลังหนาที่แสนคุ้นเคยที่ยืนมองสิ่งปลูกสร้างที่ลุกไหม้ดวงแววตาว่างเปล่า นั้นทำให้โลกทั้งใบของเชลยศึกหนุ่มพังลงในทันที

       

      “ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมไหนท่านสัญญาแล้ว”กล่าวออกไปทั้งน้ำตา ร่างเล็กหมดแรงที่จะพยุงตัวแล้ว หมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง ทั้งหัวใจที่แตกสลายกับร่างกายที่ถึงขีดจำกัดสติเพียงน้อยนิดที่ประคองเพื่อให้มีชีวิตรอดเพื่อช่วยเด็กๆกลับดับไป

       

      แม้จะเป็นตอนเช้าและมีดวงตาที่ปกติดี แต่ทุกอย่างในสายตาชายหนุ่มกลับมืดบอด ความหวังเดียวที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกที่น่าอดสู่นี้กลับถูกดับไปเพียงพริบตา ไม่มีที่ไหนในอาณาจักรหรือเขตการปกครองนี้ที่เป็นสีขาวสว่าง ไม่มีเลย

       

      เมื่อคนดี มาอยู่ผิดที่ผิด ทางก็ไม่ต่างอะไรกับแกะขาวที่อยู่ในฟูงแกะดำ คำพูดที่ราชาใจโหดกล่าวออกมานั้นก็แค่เรื่องที่หลอกล้อเขาเพื่อให้เขาตายใจทำให้เขามีแสงสว่างและดับมันลงอย่างเลือดเย็น โดยไม่ลังเลใจเลยสักนิดเป็นปีศาจในร่างเทวดาโดยสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติเลย

       

      เขายังสงสัยอยู่เสมอว่าเขาทน คนผู้นี้ได้อย่างไง ทนจนมาถึงทุกวันนี้ได้อย่างไง  ทนคนใจร้ายที่พังความหวังของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไง เหตุใดราชาหนุ่มใจทรามถึงทำร้ายความหวังเพียงน้อยนิดเขา อยากเห็นเขาเจ็บปวดเจียนตายหรือ ทุกวันนี้ก็เห็นไม่พอหรือไงแค่นี้เขาก็เหมือนตุ๊กตาเข้าไปทุกทีแล้ว ต้องให้เขาดิ้นจนขาดใจตายตรงหน้าไหมถึงจะเพียงพอต่อความพอใจ หรือเห็นความทรมารเขาเป็นเพียงแค่ละครที่สร้างขึ้นเพื่อความสำราญใจกันแน่น

       

      พอสักทีกับโลกที่เขายืนอยู่ พอสักที เขาเหนื่อยมามากพอแล้ว เหนื่อยเกินไปแล้ว เขาแอบชมตัวเองอยู่ในใจว่าตัวของเขาช่างเก่งเหลือเกินที่มาถึงจุดนี้ได้ แต่ต่อไปนี้เขาจะให้ร่างกายได้พักสะทีทั้งร่างกายและจิตใจเลย ขอบคุณที่เหนื่อยเพื่อฉันพวกนายทนเพื่อฉันมามากพอแล้วต่อไปนี้จะไม่ฝืนแล้วละ พวกเราพอได้แล้ว ขอโทษด้วยนะเจ้าชายที่ผมอ่อนแอเกินกว่าที่จะมีชีวิตรอดต่อไปขอโทษจริงๆ

       

      มือเล็กบางกำผ้าสีขาวบริสุทธิ์ ก่อนที่ข้างนอกฝนจะตกลงมาราวกับเสียใจกับสิ่งที่เขาเลือก

       

      ตุบ เสียงเก้าอี้ล้มลงพร้อมกับขาที่ลอยเหนือพื้น อีกแค่นิดเดียว ก็ไม่ต้องทนทรมารแล้ว รีบๆหมดลมหายใจสะทีสิ

       

      ปัง

       

      ดวงตาสีอเมทิตย์เบิกกว้างก่อนจะรีบวิ่งไปอุ้มขาคนตัวเล็กพร้อมกับใช้มือดึงกระชากผ้าสีขาวออก

       

      “แค่กๆ” โชอิจิไอออกมาก่อนจะมองคนที่มองเขาด้วยแววตาโกธรขึง

       

      เพียะ ใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบ

       

      “ทำบ้าอะไรห๊ะ!!”ตอนนี้ชายหนุ่มโมโหมากเขาโกธรที่นักโทษหนุ่มจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นดวงตาสีมรกตนั้นว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย

       

      “ฆ่าตัวตายไง พอแล้วกับเจ้าอึก ออกไปอย่ามาจับตัวข้าอึก..ออกไปฮือ”แขนเล็กผลักไสคนใจร้ายให้ออกจากตัว เขาเกลียด เกลียดคนผู้นี้ เกลียดที่ทำให้ชีวิตของเขาพังไม่เป็นท่า พังแล้วพังอีก พังซ้ำพังซาก

       

      “เจ้าคิดว่าการฆ่าตัวตายจะหนีข้าพ้นเหรอ ถ้าเจ้าตายข้าก็จะเอาร่างที่ไร้วิญาณของเจ้าจนแตกสลายไปเลยเป็นไง”ข่มขู่ออกไปเขาไม่ชอบใจอย่างมากที่อีกฝ่ายทำตัวไม่อยากมีชีวิตอยู่

       

      “ถึงตอนนั้นข้าก็คงไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น ทำไปเลยถ้าอยากทำต่อให้ทำจนร่างของข้าเน่าเปื่อยข้าก็ไม่ลุกขึ้นมาร้องขอความเห็นใจจากเจ้า”ก็แค่ร่างกายที่ไร้ชีวา หากตายแล้วก็คงไม่มีความรู้สึกใดคงไม่เจ็บปวดเท่ามีชีวิตอยู่เหมือนตอนนี้ เขาไม่เสียใจด้วยซ้ำกับร่างกายที่แสนอ่อนแอพันธ์นี้ แหลกสลายไปได้เลยยิ่งดี

       

      “งั้นเจ้าก็จงดูความพินาศของวองโกเล่หลังจากเจ้าตายไปสะ เสียงร้องไห้จากเจ้าชายอันเป็นที่รักของเจ้าจะดังไปถึงที่ๆเจ้าอยู่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเจ้าเลือกความตายมากกว่าจะทนทรมารกับข้า หากวิญาณของเจ้าไม่อยู่ที่ร่างของเจ้าแล้วละก็ เจ้าจงดูความทรมารของซาวาดะสะ เขาจะมีชะตากรรมแบบเดียวกันกับเจ้าแน่นนอนข้าขอสาบาน เพราะงั้นอย่าทำอะไรที่มันทำให้เจ้าชายของเจ้าผิดหวังหรือสิ้นหวังแบบที่เจ้าเป็นอยู่ตอนนี้ จนถึงตอนนั้นเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญอย่างไงข้าก็ไม่ได้ยิน”เขาทำจริงแน่น หากอิริเอะ โชอิจิ เลือกความตายมากกว่าที่จะทนทรมาร อยู่ กับเขา โลกใบนี้ก็ช่างดูด้อยค่าจนอยากจะทำลายมันทิ้งสะ

       

      “มะ..ไม่..อย่าทำเจ้าชาย..ข้ายอมทุกอย่างได้โปรดไม่ๆ”ร่างเล็กร้องไห้พร้อมกับกอดคนตัวโตไว้ ไม่เอาถ้าหากเจ้าชายผู้ที่บริสุทธิ์ของเขาต้องมาพบชะตากรรมเดียวกัน ใจของเขาหลังความตายคงแตกสลายแน่น เขาเดาไม่ออกเลยหากเจ้าชายต้องพบเจอสิ่งที่เขาเจอ แค่คิดหัวใจก็ป่นปี้ไปแล้ว

       

      ราชาหนุ่มเริ่มพอใจในท่าทีของคนตัวเล็ก  มือหนาลูบผมสีชาเย็นเข้มอย่างอารมณ์ดี ท่าทางสั่นอย่างกับลูกนกแบบนี้สิค่อยว่าง่ายหน่อย

       

      “พูดง่ายแบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อยโชจัง วันนี้โชจังทำให้ฉันอามรณ์เสียมากเลยรู้หรือเปล่าเพราะงั้นเด็กดีอย่างโชจังคงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไงเพื่อที่จะให้ฉันอารมณ์ดี”

       

      ใบหน้าหวานพยักหน้างึกงักทันที ดันคนตัวโตให้นั่งลงกับที่นอนก่อนจะย่อตัวลงมาที่ระหว่างขาของคนใจร้าย มือเล็กจัดการถอดกางเกงเนื้อดีออกและเริ่มปลุกเร้าอารมณ์คนตัวโต

       

      ริมฝีเล็กครอบครองแกนกายหนาจนมันจุกที่คอหอย แต่ก็ยังอุตส่าห์รั่วลิ้นที่ปลายยอดหัวเล็กขยับขึ้นลงก่อนค่อยเลียตามโคลนจนถึงยอดปลาย ท่าทางอีกฝ่ายมันช่างดึงดูดเขาสะเหลือเกิน ใบหน้าหวานแสดงออกว่ายั่วยวนเขาจนอยากตะครุบให้จมอกสะเดี่ยวนี้

       

      “อ่าส์..”ใบหน้าหล่อเหลาเงยครางออกมาก่อนจะจับผมของเชลยศึกหนุ่มไปมาตามใจที่ตัวเองต้องการก่อนจะ ถึงอารมณ์มากก็กระแทกเข้าไปและปล่อยออกมาจนสุด

       

      “อ่ะ..อ่าส์”ครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงแรงดูดที่บริเวณปลายยอด คนตัวเล็กกลืนกินหยดน้ำจากชายหนุ่มจนหมด นั้นทำให้ราชาหนุ่มใจเต้น ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน ชายหนุ่มพลักคนนที่ยั่วเขาให้นอนลง ก่อนจะกระชากกางเกงสีขาวบางออก ซุกไซร์ลำคอ ที่เป็นรอยแผลอย่างคลั่งไคล้ ตอนนี้อารมณ์เขาเริ่มปะทุออกมา  ลิ้นหนาลากไล้ไปตามโครงหน้าหวาน คนตัวเล็กแยกขาเพื่อให้อีกฝ่ายกระทำอย่างที่ชายหนุ่มใจยักษ์อยากทำ ทำเถอะหากมันเป็นสิ่งที่ ชายหนุ่มปรารถนา ทำไปเลยหากร่างกายของเขาจะทำให้ เจ้าชายไม่ต้องพบชะตากรรมแบบเขาทำไปเถอะ ทำจนปีศาจตนนี้จะพอใจ

       

      “อ่าส์..อืม.”มือเล็กกรีดแผ่นหลังหนาจนเป็นทางยาวเมื่อความเสียวซ่าส์กระทุ้งเข้ามาที่บริเวรช่องน้อย ร่างเล็กแอนกายเพื่อให้อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาอย่างที่ใจปีศาจหนุ่มตนนี้ปรารถนา

       

      “อ่าส์..โชจัง..อ่าส์..โชจังพูดว่ารัก..ฉันสิ พูดว่ารักฉัน”คำสั่งดั่งคำปรารถนาส่วนลึกที่ต้องการให้เชลยหนุ่มพูดออกมาจากใจจริง

       

      “รัก..ข้ารักท่านเบียคุรัน..อ่าส์!!”ยิ่งได้ยินคำว่ารักก็ยิ่งกระแทกลึกจนแทบจะจุกตายคาอกชายหนุ่มผมขาว

       

      “อืม ฉันก็รัก”เอวหนาขยับแรงขึ้น จนร่างกายเล็กสั่นไปตามแรงกระหน่ำที่กระแทก

       

      “อ่าส์”

      .

      .

      “เด็กพวกนั้นถูกย้ายไปอยู่หลังวังแล้ว ตอนนี้กำลังเรียนหนังสือทีนี้พอใจยัง”ชายหนุ่มพูดออกมา ก่อนที่คนตัวเล็กจะกอดราชาหนุ่ม

       

      “ครับ”ใบหน้าที่ซีดเซียวยิ้มออกมาพร้อมกับกอดคนตัวโตไว้ ใบหน้าหวานแนบลงไปตามหน้าอกหนา แค่เด็กพวกนั้นไม่ตายก็พอแล้ว แค่นี้ก็ดีเกินพอ

       

      เบียคุรันก้มลงหอมศีรษะเชลยหนุ่มตัวเล็ก ที่จริงก็กะจะฆ่าเด็กพวกนั้นจริงๆละ เขายอมรับว่าเขาอิจฉาเด็กพวกนั้นที่ได้รับรอยยิ้มที่เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ ได้รับความใจดีที่เชลยศึกตัวเล็กไม่เคยมีให้เขา ทั้งความอบอุ่นและสว่างไสวราวกับแสงอรุณที่มีให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้านั้นแต่กลับไม่เคยมีให้เขาผู้ที่ยิ่งใหญ่ครองทั้งครึ่งโลก สิ่งนั้นทำให้เขาอยากฆ่าเจ้าพวกนี้สะ แต่ตอนจะลงมือทำภาพใบหน้าแห่งความผิดหวังก็ฉายชัดเข้ามาในสมองจนทำไม่ลง เขาไม่ชอบให้คนตัวเล็กมองเขาราวกับมองยักษ์มาร มองเขาราวกับเป็นปีศาจ ถึงเขาจะชอบให้คนอื่นมองแบบนั้นก็เถอะ แต่กับเชลยศึกต่างแดนนี้กลับไม่ใช่ เขาไม่อยากเป็นคนเลวร้ายในสายตาคนตัวเล็กคนนี้เลย

       

      “จะไปไหนครับ”ร่างเล็กพูดขึ้นเมื่อคนตัวโตอุ้มเขาในท่าเจ้าหญิง

       

      “เดี่ยวก็รู้”กระซิบที่ข้างหู ชายหนุ่มเอาผ้าคลุมๆร่างบางก่อนจะออกจากห้องและเดินไปตามทางเดิน ดวงตาสีมรกตมองประตูบานใหญ่ตรงหน้า เมื่อมือหนาพลักมันหัวใจของคนตัวเล็กก็เปล่งประกายทันที

       

      “ว๊าว..”ดวงเนตรสีมรกตฉายชัดถึงความชื่นชมอย่างปิดไม่มิด หัวใจดวงน้อยเต้นระรั่วกับภาพเบื้องหน้า สวนดอกไม้สีขาวกับต้นไม้ใหญ่สองสามต้นอยู่ในห้องๆนี้และลำธารน้ำใส ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีสิ่งๆนี้ที่เขาไม่ได้สัมผัสมันมานาน ชายหนุ่มปล่อยคนตัวเล็กให้สัมผัสกับธรรมชาติที่ร่างบางคิดถึง เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นหญ้าใบหน้าหวานก็ยิ้มออกมา ที่นี้มีศาลาหลังเล็กตั้งอยู่ด้วย อากาศก็ถ่ายเทได้ดี ที่นี้ช่างงดงามจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าที่นี้จะมีสถานที่แบบนี้อยู่

       

      เบียคุรันเดินมากอดเด็กน้อยที่ไร้เดืองสาสำหรับเขา ดวงตาสีมรกตนั้นช่างน่าหลงไหล

       

      “ที่นี้ ข้าให้โชจัง”

       

      “ให้ผม..ทำไมละครับ”ทำไมต้องให้เขาละ เชลยหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวง จะไม่ให้เขาระแวงได้อย่างไงก็คนตรงหน้าไม่เคยทำอะไรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

       

      “อย่าทำท่าทางแบบนั้นสิ.นี้นะแทนคำขอโทษและการเริ่มต้นใหม่ ข้ารู้ว่าที่ผ่านมา โชจังมองข้าอย่างไง”ก็คงมองเขาราวกับยักษ์มาร ไม่งั้นก็ ผีห่าซาตานแน่นนอน เขาอยากให้คนตัวเล็กกอดโดยที่เขาไม่ต้องบังคับหรือฝืนใจใดๆ

       

      “...”

       

      “ข้าอยากให้โชจังมองข้าใหม่ ข้ารู้ว่ามันคงทำใจยากที่จะมองคนที่ทำร้ายตัวเองให้เป็นคนดี แต่ข้าอยากให้โชจังให้โอกาศข้า แม้ว่ามันจะนานเท่าไรข้าก็จะรอ”

       

      หัวใจดวงน้อยเริ่มสั่นไหว เขาเริ่มใจอ่อนเมื่อดวงตาสีอเมทิตย์มองอย่างอ้อนวอน ราวกับดอกไม้ที่งดงามและน่าหลงไหลหากแต่ว่าสิ่งงดงามนั้นราวกับพิษร้ายที่ล่อลวงให้เขาเข้าไปและบีบอัดเขาให้แตกสลาย

       

      คนตัวโตรู้ถึงหัวใจที่ลังเลของร่างเล็ก มือหนาคว้ามือบางขึ้นมาพร้อมกับจูบมือเรียวบางที่มีรอยเขียวจ้ำ เขาเผลอทำร้ายคนที่อ่อนแอให้บอกช้ำจนถึงขนาดนี้เลยเหรอ ก่อนจะเลื่อนมือนั้นมาสัมผัสข้างแก้มของตัวเอง

       

      “ไม่ต้องให้คำตอบตอนนี้ก็ได้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปข้าไม่ อยากบังคับโชจัง”

       

      “ครับ” ตอนนี้โชอิจิหลงกับการกระทำนั้น หัวใจดวงน้อยเอนอ่อนไปโดยสมบูรณ์แบบ คนตัวเล็กกอดราชาหนุ่มไว้พร้อมกับเอาหน้าซุกอกหนา

       

      เขารู้ว่า อิริเอะ โชอิจิเป็นคนดี ผ้าขาวบางแม้จะทำให้ปนเปื้อนจนเกือบเป็นสีดำหากแต่เนื้อแท้ก็ยังเป็นเนื้อผ้าสีขาวบริสุทธิ์ เพราะงั้นมันถึงไม่ยากหากจะทำให้อีกฝ่ายตกหลุมรักเขา อ้อมแขนหนาโอบกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับจูบที่กระหม่อนบาง

       

      เหมือนมีบางอย่างบอกให้เขารักคนๆนี้ เคยมีตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งกาลก่อนที่แผ่นดินจะแยกเป็นสองฝั่ง ผู้ที่ครองพิภพได้ตกหลุมรักหญิงสาวสามัญชน แต่นางกลับมีใจให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า สิ่งนั้นทำให้ราชาพิโรธ เขาสั่งประหารชายผู้ที่เป็นที่รักของนาง

       

      การกระทำนั้นทำให้จิตใจที่ขาวบริสุทธิ์กลับเป็นสีดำทมิฬ นางแยกตัวจากอาณาจักรนั้นทันที เธอก่อกบฏกับดินแดนนั้น ดินแดนที่งดงามราวกับเทพนิยาย กลับลุกเป็นเพลิงทันที และหล่อนได้ก่อตั้งเป็นอาณาจักรมิลฟีโอเล่เมื่อจ้าวแห่งพิภพมองดูมิวฟีโอเล่ที่เติบโตขึ้นทุกวันและโหดร้ายขึ้นทุกที สิ่งนั้นทำให้จ้าวแห่งพิภพถึงกับปวดใจก่อนที่ท่านจะขอพรแห่งพระผู้เป็นเจ้า ว่า ขอให้ผู้คนที่เกิดในดินแดนนี้เป็นคนชำละล้างใจสีดำทมิฬให้ขาวบริสุทธิ์ดั่งเดิม

       

      “โชอิจิคุง”ร่างเล็กของเจ้าชายกระโดดกอดคนตัวเล็กที่หายหน้าหายตาไปเกือบหนึ่งปีเต็ม เขาดีใจที่อีกฝ่ายปลอดภัย ดวงตาสีเปลือกไม้สำรวจมองร่างกายบางของชายหนุ่ม ตามลำแขนมีรอยเขียวช้ำเบาๆนั้นยิ่งทำให้เจ้าชายแทบใจสลาย

       

      “เจ้าชาย”

       

      “ทำไมตัวของเจ้าถึงมีแต่รอยช้ำ”ดวงตาสีเปลือกไม้ตวัดมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังคนที่ช่วยเหลือเขา

       

      “เจ้าทำอะไร โชอิจิคุง!!”ร่างเล็กของเจ้าชายกำลังจะดึงชายหนุ่มตัวบางมาไว้ด้านหลังแต่ก็ช้ากว่าราชาใจร้าย มือหนาฉุดคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมแขนทันที นั้นทำให้สึนะเบิกตากว้าง

       

      “นี้มันเป็นการเข้าใจผิดระหว่างข้ากับเขา ตอนนี้โชจังเป็นของข้าที่ข้าเดินทางมาที่นี้เพราะจะมาทำตามประเพณีเมืองของเจ้าให้จบๆ”เพียงคำพูดนั้นก็ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ ร่างเล็กลูบแขนชายหนุ่มเบาๆเพื่อบอกให้เขาปล่อย เบียคุรันทำตามอย่างว่าง่าย โชอิจิเดินไปหาเจ้าชายก่อนจะคุกเข่าให้

       

      “ผมขอโทษด้วยครับ ผมจะแต่งงานกับเขา”ประโยคคำพูดของร่างเล็กนั้นทำให้เจ้าชายตัวเล็กแทบจะเป็นลม

       

      “เจ้าพูดเล่นหรือเปล่าโชอิจิคุง เจ้านั้นมันทำร้ายเจ้าขนาดนี้”ร่างเล็กส่ายหน้า พร้อมกับยิ้มให้เจ้าชายที่ตัวเองนับถือ สึนะถอนหายใจก่อนจะเอามือลูบผมสีส้มอ่อน

       

      “อืม ข้ายอมแล้วถ้ามันเป็นการตัดสินใจของเจ้า ข้าก็ยอมแต่ถ้าหากเจ้าเกิดเปลี่ยนใจที่นี้ก็ต้อนรับการกลับมาเสมอ”คำพูดท้ายนั้นจิกกัดคนตัวโต เบียคุรันแทบจะกระชากคนตัวเล็กกลับมา เจ้าชายเมือนนี้เห็นน่ารักแบบนี้ก็ดูท่าจะร้ายไม่เบาแถมยังดูจะร้ายมากกว่าโชจังเสียอีก

       

      “ครับขอบคุณ”ร่างเล็กของเจ้าชายโอบกอดคนตัวบางไว้

       

      “ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ เจ้าทำเพื่อข้ามาขนาดนี้ ข้าขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ”ถ้าเขาเป็นโชอิจิ คงฆ่าตัวตายตั้งนานแล้ว หัวใจของทหารหนุ่มคนนี้ช่างแข็งแกร่ง

       

      หลังจากที่จัดพิธีทุกอย่างเสร็จ มิวฟีโอเล่ได้กลายเป็นพันธมิตรกับวองโกเล่แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆเป็นค่อยไปเพราะ มิวฟีโอเล่นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มคนหัวรุ่นแรง

       

      “อัก..อ้วก”เสียงดังในห้องน้ำทำให้ราชาหนุ่มตื่นเต็มตาก่อนจะพบ ผู้ถือครองดวงใจของเขากำลังอ้วกออกมา ชายหนุ่มลูบแผ่นหลังเด็กให้

       

      “ใครอยู่ข้างนอกตามหมอมาที”ราชาหนุ่มสั่งเสียงเข้มเขาพยุงคนที่กำลังหมดแรงมานอนบนที่นอนก่อนหมอหลวงจะเข้ามาและเริ่มตรวจอาการราชินีผู้ที่อดีตเคยเป็นเชลยศึก

       

      “ยินดีด้วยครับยานั้นได้ผล ตอนนี้ท่านโชอิจิกำลังท้องได้สองเดือนแล้วครับ”คำพูดนั้นทำให้เขาหมดแรงมองหมอทันที

       

      “เป็นไปได้ไง ผมจะท้องได้ไงและยาอะไร”ถ้าเขาท้องได้จริงก็ต้องท้องตั้งนานแล้ว ทำไมถึงมาป่องตอนนี้ ก่อนที่หมอหลวงจะอธิบาย เบียคุรันก็ห้ามไว้ชายหนุ่มไล่หมอหลวงออกจากห้องเขาจะเป็นคนบอกดวงใจของเขาด้วยตัวเองเอง

       

      “โชจังใจเย็นๆนะที่โชจังท้อง จำได้ไหมตอนที่เราแต่งงานแล้วให้ดื่มไวท์แทนคำสัญญานั้นนะ มันมียาที่บรรพบุรุษของฉันทำขึ้นมาเพื่อที่จะได้มีลูกและครองคู่กับคนที่เขารัก เอาง่ายๆยานั้นมันผสมเวทที่แข็งแกร่งและคำขอพรจากพระเจ้า ตอนนี้ภายในท้องจังเลยมีลูกของพวกเราไง โชจังไม่ดีใจเหรอ”เสียงที่ร่างเริงของชายหนุ่มกลับเบาลงเมื่อเห็นใบหน้าของผู้เป็นที่รักทำหน้าตาเหมือนไม่พอใจ คนตัวเล็กจับไหล่หนาไว้ก่อนจะส่ายหัว

       

      “ไม่ครับ ผมดีใจแต่แค่ตกใจนิดหน่อย”หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อสัมผัสตรงหน้าท้องตัวเอง ในนี้มีเด็กอยู่จริงๆเหรอ มีชีวิตหนึ่งอยู่ในนี้จริงๆเหรอ ดวงตาสีม่วงมองคนที่ตื่นเต้นอย่างดีใจ เขาคิดถูกแล้วละที่ให้โชอิจิกินยานี้ตอนที่ตกหลุมรักเขา

       

      “ไหนดูสิ เจ้าตัวเล็กของพ่อเป็นอย่างไงบ้าง”ถามออกไปพร้อมกับมองหน้าท้องที่นูนขึ้นนิดหน่อย

       

      “เขายังไม่ดิ้นสักหน่อยครับ”โชอิจิ เบื่อความเวอร์ของราชาหนุ่ม ที่เห่อลูกจนเขาหมั่นไส้ แถมยังบังคับเขา ให้เขาห้ามวิ่ง และห้ามเดินลงบันไดคนเดียว

       

      “เดี่ยวก็ดิ้นนะ โชจังเราจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี”

       

      “อย่าพึ่งพูดถึงดีกว่าครับ”เดี่ยวก็ได้ทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อลูกอีก

       

      “เหรอถ้าเขาเป็นเด็กผู้หญิงตองน่ารักมากแน่นๆ และถ้าเป็นเด็กผู้ชายต้องหล่อเหลาเหมือนฉันแน่นนอน”พูดอย่างตื่นเต้น ชายหนุ่มหนุนหน้าตักพร้อมกับหันหน้าเข้าหาหน้าท้องราบแบนนั้น


      มือเล็กลูบผมสีขาวนุ่ม

       

      “ขอบใจนะที่ให้โอกาสข้า”

       

      “ไม่เป็นหรอกครับผมเข้าใจ”

       

      “อืม ฉันรักเธอนะ”ก็ไม่รู้ว่าเผลอใจไปตอนไหน แค่รู้ว่ามีบางสิ่งที่เขาต้องรั้งไว้ รั้งไว้เท่านั้นแม้อยากจะปล่อยแต่ก็ปล่อยไปไม่ได้

       

      เป็นเชลยศึกที่ร้ายกาจ เสียจริง หลอกล้อเขาด้วยความบริสุทธิ์นั้น และที่น่าโมโหกว่านั้นคือเขายอมโง่ ที่จะให้อีกฝ่ายหลอกล้อ เขาหลงไปกับมันอย่างกู้ไม่กลับและก็จะไม่มีทางที่จะกู้มันกลับคืนมาด้วยซ้ำ

       

      เพราะเขาให้ใจอีกฝ่ายหมดแล้ว


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×